เจลล้างหน้ากับโฟมล้างหน้าแตกต่างกันยังไง??

การล้างหน้านั้น เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดูแลผิวประจำวัน ถึงแม้การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (cleanser) จะเป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการขจัดสิ่งสกปรก, ความมันส่วนเกิน, เหงื่อไคล, เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ, รวมทั้งเมคอัพและสารเคมีต่าง ๆ ที่ตกค้างบนผิวหน้า แต่ก็อาจกลายเป็นศัตรูที่ทำร้ายผิวของเราได้หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่เหมาะสม

โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า เลือกอะไรดีจึงจะเหมาะกับผิวเรา ?

หลายๆคนเชื่อว่าเมื่อต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสักตัว โดยเฉพาะโฟมล้างหน้าหลอดแรก อาจเกิดความสงสัยว่าจะเลือก “โฟมล้างหน้า หรือเจลล้างหน้าดี” แล้วแบบไหนกัน จึงจะเหมาะกับผิวหน้าของเรามากที่สุด

ส่วนปัญหาหลักของคนผิวมันมีอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ก็คือ

“ความมันส่วนเกิน” ที่ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายโดยเฉพาะ ปัญหาสารพัดสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวเสี้ยน สิวอุดตัน ในทางกลับกันคนผิวแห้งแม้จะมีปัญหาสิวน้อยกว่า แต่ด้วยความที่ “ผิวอาจขาดความชุ่มชื้น” อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่า ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวหน้า นั่นก็คือการทำความสะอาด ชำระล้างเอาสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวออกไป และควบคุมความมัน ความชุ่มชื้นนั่นเอง

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า “เนื้อโฟม”

เป็นเนื้อผลิตภัณฑ์จะกลายเป็นฟองจำนวนมากเมื่อถูกผสมกับน้ำตามด้วยการนวดหรือขยี้ด้วยมือ ส่วนประกอบสำคัญในโฟมล้างหน้าส่วนใหญ่ คือ สารลดแรงตึงผิว ที่จะทำหน้าที่ขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า โดยสารโซเดียมลอริลซัลเฟต (sodium lauryl sulfate) หรือ SLS เป็นสารที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เนื่องจากสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้ดีและทำให้เกิดฟองมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจาก SLS อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบางคน ผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดในปัจจุบันจึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สาร SLS และเปลี่ยนมาใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอื่น เช่น โซเดียมลอเรทซัลเฟต (sodium laureth sulfate; SLES) และโคโคมิโดโพรพิลบีเทน (Cocamidopropyl betaine) ที่มีความอ่อนโยนมากกว่าแทน

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า “เนื้อเจล”

เป็นเนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเจลใส ไม่มีฟองหรือมีฟองน้อยมาก มักพบในแบรนด์เครื่องสำอางที่เป็นออแกนิคหรือแบรนด์ระดับไฮเอน ซึ่งจะมีต้นทุนค่อนข้างสูง เช่น Cocamidopropyl Betaine , Glycerin, Sodium, Laurylglucosides Hydroxypropylsulfonate เจลล้างหน้าที่มีฟองมักใช้สารลดแรงตึงผิวกลุ่มที่ไม่มีประจุ เช่น decyl glucoside จึงให้ฟองน้อย แต่มีความสามารถชำระล้างสูง ไม่ทำให้ผิวแห้ง กักเก็บความชุ่มชื้อได้ดีกว่า และอ่อนโยนต่อผิวหนัง

เนื่องจากผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจึงควรคำนึงถึงสภาพผิวของแต่ละคนเป็นหลัก ตามนี้ค่ะ

โฟมล้างหน้า

มีความสามารถในการขจัดสิ่งสกปรกรวมทั้งความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มีการใช้สารลดแรงตึงผิวที่รุนแรงเกินไปเป็นส่วนประกอบอาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื้นจำนวนมาก จนทำให้ผิวแห้งตึง และเกิดอาการคันหรือระคายเคืองได้ นอกจากนั้นบางผลิตภัณฑ์ที่เป็นด่างมากเกินไปเนื่องจากการเติมด่างเพื่อไปทำปฏิกิริยากับไขมันให้เป็นสบู่ อาจไปรบกวนสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่างของผิวหนัง ทำให้ผิวบวมและมีความยืดหยุ่นลดลงได้ ดังนั้น โฟมล้างหน้าจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสมถึงผิวมัน แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากจะยิ่งทำให้ผิวมีความแห้งกร้านและอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย